กลาก (หนังศีรษะ)

โรคกลากบนหนังศีรษะ (tinea capitis) คือผื่นผิวหนังที่เกิดจากการติดเชื้อรา มักทำให้เกิดรอยเปื่อยเป็นขุย คัน และศีรษะล้านเป็นวงกลม โรคกลากได้ชื่อนี้เพราะลักษณะเป็นวงกลม ไม่เกี่ยวข้องกับหนอน

สัญญาณและอาการของโรคกลากบนหนังศีรษะอาจรวมถึง:

• บริเวณที่เป็นวงกลม หนึ่งบริเวณหรือมากกว่า ที่มีสะเก็ดหรืออักเสบ โดยที่เส้นผมหลุดออกที่หรือใกล้หนังศีรษะ
• บริเวณที่ค่อยๆ ขยายใหญ่ขึ้นและมีจุดเล็กๆ สีดำซึ่งเป็นที่ที่เส้นผมหลุดออก
• เส้นผมเปราะหรือแตกง่าย สามารถหักหรือดึงออกได้ง่าย
• บริเวณที่บอบช้ำหรือเจ็บปวดบนหนังศีรษะ

ภาวะหลายอย่างที่ส่งผลกระทบต่อหนังศีรษะอาจมีลักษณะคล้ายคลึงกัน พาบุตรหลานของคุณไปพบแพทย์หากบุตรหลานของคุณมีอาการผมร่วง มีขุย หรือคันหนังศีรษะ หรือลักษณะผิดปกติอื่นๆ ของหนังศีรษะ การวินิจฉัยที่ถูกต้องและการรักษาที่รวดเร็วด้วยยาตามใบสั่งแพทย์เป็นสิ่งสำคัญ ครีม โลชั่น และแป้งที่ไม่ต้องสั่งโดยแพทย์จะไม่สามารถกำจัดโรคกลากบนหนังศีรษะได้

กลากบนหนังศีรษะเกิดจากเชื้อราทั่วไป เชื้อราจะเข้าทำลายชั้นผิวหนังชั้นนอกของหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้เส้นผมหักได้ อาการนี้สามารถแพร่กระจายได้ดังนี้:

• จากคนสู่คน กลากมักแพร่กระจายผ่านการสัมผัสผิวหนังโดยตรงกับผู้ติดเชื้อ
• จากสัตว์สู่คน คุณสามารถติดเชื้อกลากได้จากการสัมผัสสัตว์ที่มีกลาก กลากสามารถแพร่กระจายได้ขณะลูบคลำหรือตกแต่งขนสัตว์ เช่น สุนัขหรือแมวที่มีกลาก กลากพบได้บ่อยในลูกแมว ลูกสุนัข วัว แพะ หมู และม้า
• จากสิ่งของสู่คน กลากสามารถแพร่กระจายได้จากการสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวที่ผู้ติดเชื้อหรือสัตว์ที่ติดเชื้อสัมผัสเมื่อเร็วๆ นี้ ซึ่งรวมถึงสิ่งของต่างๆ เช่น เสื้อผ้า ผ้าขนหนู ที่นอน หวี และแปรง

ปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดโรคกลากบนหนังศีรษะ ได้แก่:

• อายุ. โรคกลากบนหนังศีรษะพบได้บ่อยที่สุดในเด็กวัยหัดเดินและเด็กวัยเรียน
• การสัมผัสกับเด็กคนอื่นๆ. การระบาดของโรคกลากพบได้บ่อยในโรงเรียนและศูนย์ดูแลเด็ก ซึ่งเชื้อติดต่อได้ง่ายจากการสัมผัสใกล้ชิด
• การสัมผัสกับสัตว์เลี้ยง. สัตว์เลี้ยง เช่น แมวหรือสุนัข อาจมีเชื้อโรคโดยไม่แสดงอาการ เด็กสามารถติดเชื้อได้จากการสัมผัสสัตว์

บางคนที่เป็นโรคกลากบนหนังศีรษะอาจเกิดการอักเสบอย่างรุนแรงที่เรียกว่า kerion โรค kerion จะปรากฏเป็นตุ่มนูนอ่อนนุ่มที่ระบายหนองและทำให้เกิดสะเก็ดหนาสีเหลืองบนหนังศีรษะ

การป้องกันโรคกลากบนหนังศีรษะทำได้ยาก เนื่องจากเชื้อราสาเหตุนั้นพบได้ทั่วไป และโรคนี้ติดต่อได้แม้ก่อนที่จะมีอาการ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนเหล่านี้เพื่อลดความเสี่ยงของโรคกลาก:

• ให้ความรู้แก่ตนเองและผู้อื่น ตระหนักถึงความเสี่ยงของโรคกลากจากผู้ติดเชื้อหรือสัตว์เลี้ยง บอกเด็กๆ เกี่ยวกับโรคกลาก สิ่งที่ควรระวัง และวิธีการหลีกเลี่ยงการติดเชื้อ
• สระผมเป็นประจำ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้สระหนังศีรษะของบุตรหลานเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากตัดผม ผลิตภัณฑ์ปรับสภาพหนังศีรษะบางชนิด เช่น น้ำมันมะพร้าวและโพมาดที่มีซีลีเนียม อาจช่วยป้องกันโรคกลากบนหนังศีรษะได้
• รักษาความสะอาดและแห้งของผิวหนัง ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเด็กๆ ล้างมือ รวมถึงหลังจากเล่นกับสัตว์เลี้ยง รักษาความสะอาดในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโรงเรียน ศูนย์ดูแลเด็ก ยิม และห้องล็อกเกอร์
• หลีกเลี่ยงสัตว์ที่ติดเชื้อ การติดเชื้อมักดูเหมือนเป็นแผ่นหนังที่ขนหายไป หากคุณมีสัตว์เลี้ยงหรือสัตว์อื่นๆ ที่มักมีโรคกลาก ให้ขอให้สัตวแพทย์ตรวจสอบสัตว์เหล่านั้นเพื่อหาการติดเชื้อ
• หลีกเลี่ยงการใช้สิ่งของส่วนตัวร่วมกัน สอนเด็กๆ ว่าอย่าให้ผู้อื่นใช้เสื้อผ้า ผ้าขนหนู แปรงผม อุปกรณ์กีฬา หรือสิ่งของส่วนตัวอื่นๆ ของพวกเขา

แพทย์ของคุณน่าจะสามารถวินิจฉัยโรคกลากบนหนังศีรษะได้ด้วยการดูที่ผิวหนังที่ได้รับผลกระทบและการถามคำถามบางอย่าง เพื่อยืนยันการวินิจฉัย แพทย์ของคุณอาจจะเก็บตัวอย่างเส้นผมหรือผิวหนังเพื่อนำไปตรวจในห้องปฏิบัติการ การตรวจตัวอย่างเส้นผมหรือผิวหนังสามารถแสดงให้เห็นว่ามีเชื้อราอยู่หรือไม่

การรักษาโรคกลากบนหนังศีรษะจำเป็นต้องใช้ยาต้านเชื้อราที่ต้องสั่งโดยแพทย์รับประทาน ยาตัวแรกที่เลือกใช้มักจะเป็น griseofulvin (Gris-Peg) อาจใช้ยาอื่นทดแทนหาก griseofulvin ไม่ได้ผลหรือบุตรหลานของคุณแพ้ยา ตัวเลือกอื่นๆ ได้แก่ terbinafine, itraconazole (Spoanox, Tolsura) และ fluconazole (Diflucan) บุตรหลานของคุณอาจต้องรับประทานยาเหล่านี้เป็นเวลาหกสัปดาห์หรือมากกว่านั้น จนกว่าผมจะงอกใหม่ โดยทั่วไปแล้ว หากการรักษาประสบความสำเร็จ จุดที่หัวล้านจะงอกผมขึ้นมาใหม่ และผิวหนังจะหายดีโดยไม่ทิ้งรอยแผลเป็น

แพทย์ของคุณอาจแนะนำให้คุณสระผมให้บุตรหลานของคุณด้วยแชมพูยาที่ต้องสั่งโดยแพทย์ แชมพูจะช่วยขจัดสปอร์ของเชื้อราและช่วยป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไปยังผู้อื่นหรือส่วนอื่นๆ ของร่างกาย

ไม่จำเป็นต้องโกนหัวหรือตัดผมเป็นส่วนหนึ่งของการรักษา